หลาย ๆ คน อาจเกิดความสงสัยว่า เด็กใน ครรภ์ ของคุณแม่จะขับถ่ายหรืออุจจาระออกมาอย่างไร แล้วถ้าอุจจาระออกมาก็จะลอยอยู่ใน ครรภ์ คุณแม่หรือเปล่า วันนี้เรามาไขข้อสงสัยกันดีกว่า
.
ทารกจะมีสายสะดือที่เชื่อมกับรกที่ฝังอยู่กับมดลูกของแม่ซึ่งแม่จะส่งอากาศ และอาหารที่ย่อยแล้วผ่านทางสายสะดือ
แต่ถ้าอาหารถูกย่อยมาแล้วจากแม่ ทำไมเด็กในครรภ์ถึงยังมีอุจจาระ?
เพราะอุจจาระคือของเหลือจากการย่อยอาหารหรือกากใยที่เราย่อยไม่ได้แล้วสะสมเป็นอุจจาระ
ทำไมทารกในครรภ์แม่ถึงมีอุจจาระ?
ต้องเริ่มจากการอธิบายที่น้ำคร่ำ
น้ำคร่ำ คือ ฉี่ของเด็กทารก
ซึ่งทารกก็จะกลืนน้ำคร่ำเข้าไป เพื่อให้ปริมาณน้ำคร่ำมีความสมดุล เมื่อทารกกลืนน้ำคร่ำเข้าไปก็จะถูกลำไส้ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายเหมือนน้ำปกติ พอน้ำในร่างกายเยอะ ไตก็จะขับออก ก็จะกลายเป็นวัฏจักรวนไป
.
น้ำคร่ำ > ดื่มเข้าไป > ร่างกายขับออก > น้ำคร่ำ วนไปแบบนี้
.
แต่ในน้ำคร่ำไม่ได้มีแค่น้ำ แต่มีผิวหนังของเด็กทารกในครรภ์ที่ผลัดตัวหลุดไปอยู่ในน้ำคร่ำ ขนอ่อน ผม และเมื่อเด็กกินน้ำคร่ำ เข้าไป ก็จะมีเศษผิวหนังที่ผลัดตัว ขนอ่อน และผม เข้าไปด้วย
ซึ่งเศษผิวหนังและสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นก็จะไปกองอยู่ในลำไส้ ผสมกับเยือกเมือกในลำไส้ สีของน้ำดี ทำให้เกิดเป็นอุจจาระเหนียว ๆ สีเขียวเทา ที่เรียกว่า “ขี้เทา”
สรุป เด็กในครรภ์มีอุจจาระ แต่เด็กทารกในครรภ์จะไม่ถ่ายขี้เทาออกมาในน้ำคร่ำ เพราะว่าถ้าถ่ายขี้เทาออกมาใส่น้ำคร่ำ เด็กก็จะกินขี้เทาและหายใจเอาขี้เทาเข้าไปด้วย ซึ่งเป็นอันตรายต่อเด็กทารกในครรภ์
เพราะฉะนั้นในสภาวะปกติ ธรรมชาติจะไม่ให้เด็กอุจจาระออกมาผสมกับน้ำคร่ำ น้ำคร่ำต้องใส ไม่มีขี้เทาปน
แล้วเด็กทารกจะออกมาถ่ายอุจจาระ เมื่อออกมาจากท้องแม่ โดยช่วงแรกจะถ่ายออกมาเป็นสีเขียวเข้ม เหนียวข้น มีมูกปน และหลังจากนั้น 2-3 วัน เด็กทารกที่คลอดออกมาก็จะเริ่มถ่ายเป็นสีเหลือง.
ข้อมูลจาก Instagram คุณหมอกลาง (klang_np) | https://shorturl.at/cZ368 | https://shorturl.at/jmJPU