เมนูพิศดาร อันตรายกว่าที่คิด

เมื่อไม่นานมานี้ เราได้เห็นข่าวและกระแสเมนูสุดพิสดาร อย่างหมึกช็อต ก้อยกุ้งเต้นสด ๆ มากมาย แต่นอกจากนั้น เราก็จะเห็นข่าวว่ามีผู้ป่วยที่มีพยาธิปอดหนูขึ้นตา และทำให้สูญเสียการมองเห็นด้วย ซึ่งสาเหตุก็มาจากการที่กินของดิบ ๆ เพราะฉะนั้นวันนี้เรามาดูเมนูพิสดาร ดิบ ๆ ที่ อันตราย กันดีกว่า

หมึกช็อต
มีกระแสออกมามากมายเลยนะครับ สำหรับหมึกช็อต เมนูที่นำเอาปลาหมึกเป็น ๆ มาจุ่มลงในน้ำซีฟู้ดและให้ปลาหมึก ดูดซึมน้ำจิ้มเข้าไป ซึ่งบางมุมก็บอกว่า สงสารปลาหมึกบ้าง หรือบางมุมก็บอกว่าแซ่บบ้าง งั้นมาดูมุมที่ส่งผลต่อสุขภาพเราบ้างดีกว่าครับ

ทางหมอแล็บแพนด้า ได้บอกว่า การกินหมึกสด ๆ หรือหมึกช็อต ต้องระวังเชื้อโรคและพยาธิ เพราะหากกินอาหารทะเลแบบสด ๆ ระวังเจอเชื้ออหิวาต์เทียม หรือ วิบริโอพาราฮีโมไลติคัส ที่จะทำให้เป็นโรคท้องร่วง ท้องเสีย อาเจียน ปวดท้องอย่างรุนแรง หรืออาจจะมีอาการปวดศีรษะและหนาวสั่น ซึ่งอาการจะเกิดหลังจากกินอาหารทะเลสด ๆ 12-24 ชั่วโมง
และยังมีโอกาสเจอพยาธิอะนิซาคิส หน้าตาคล้าย ๆ ไส้เดือน เป็นพยาธิที่จะไปอยู่ตามทางเดินอาหาร และอยู่ในลำไส้ หลังจากได้กินเข้าไป 1 ชั่วโมง ซึ่งจะทำให้ปวดท้อง ปวดกระเพาะอาหาร ลำไส้อุดตัน คลื่นไส้อาเจียน

และทางด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ณัธคพัชฬ รัตนพิทูลย์ นักวิจัยศูนย์วิจัยโรคปรสิต สำนักวิชาแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ได้บอกว่า การกินหมึกสด ๆ จะมีความเสี่ยงเจอพยาธิ เพราะจากที่เก็บตัวอย่างปลาทะเลและหมึกทะเลมา จะพบพยาธิตัวกลม ซึ่งพอกินเข้าหลังจากนั้น 1-2 ชั่วโมง ก็จะปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ซึ่งเป็นอาการเริ่มต้นของการที่พยาธิไชลำไส้ จนเกิดแผล ทำให้มีอาการปวดท้อง

ซึ่งได้มีเชฟโฌ เชฟอาหารญี่ปุ่นออกมาให้ความรู้ในเพจของเชฟ ว่า การกินหมึกดิบ ๆ เสี่ยงต่อพยาธิ เพราะพยาธิและเชื้อโรคส่วนใหญ่ จะอยู่ในเครื่องในของหมึก ซึ่งจะต้องรีบนำเครื่องในออกและชำแหละอย่างถูกวิธี ในขณะที่ปลาหมึกยังสด ๆ เพื่อไม่ให้พยาธิและเชื้อโรคกระจายเข้ามาในเนื้อหมึก ทำให้ไม่ควรกินแบบทั้งตัว

แต่จะไม่ว่ายังไง เราก็ควรที่จะกินอาหารที่ผ่านความร้อนและปรุงสุกอย่างถูกวิธี เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายเจ็บป่วย จากเชื้อโรคและพยาธินะครับ

ข้อมูลจาก https://ch3plus.com/news/social/middaynews/278597
https://www.facebook.com/chefsho/posts/308326394606939?_rdc=1&_rdr

ก้อยกุ้งเต้น
ก้อยกุ้ง เมนูที่นำกุ้งเต้นเป็น ๆ มาปรุงแบบแซ่บ ๆ และหลาย ๆ คนก็เข้าใจว่าน้ำมะนาวและพริกนั้นจะช่วยฆ่าเชื้อและฆ่าพยาธิได้ ที่จริง ๆ แล้วไม่ใช่นะครับ เพราะว่าน้ำมะนาวและพริกไม่ได้ทำให้เชื้อโรคและพยาธิตาย ซึ่งกุ้งน้ำจืดจะมีพยาธิอยู่เป็นจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องผ่านความร้อน ปรุงให้สุกก่อน

สำหรับกุ้งน้ำจืดจะพบพยาธิตัวกลมและพยาธิตัวจี๊ด เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะอยู่ตามกล้ามเนื้อ ทำให้เกิดผื่นแดงและคัน จนอักเสบและบวม หรือปวด ซึ่งพยาธิจะสามารถชอนไชไปยังอวัยวะอื่น ๆ ได้ เช่น ตา ทำให้ตาบอด สมอง ทำให้สมองอักเสบและเลือดออกในสมองจนเป็นอัมพาต
และสำหรับกุ้งน้ำจืดบางชนิดหรือปูน้ำจืดบางชนิดนั้น เป็นที่อาศัยของพยาธิใบไม้ปอด เมื่อกินกุ้งน้ำจืดไม่สุก หรือสุก ๆ ดิบ ๆ จะเสี่ยงต่อการติดพยาธิใบไม้ในปอดได้ โดยเมื่อพยาธิอยู่ในปอดจะทำให้ปอดอักเสบ มีอาการเจ็บหน้าอก ไอเรื้อรัง มีเลือดปนออกมากับเสมหะ และพยาธิอาจจะไชไปอยู่ที่อวัยวะอื่นได้เช่นกัน ซึ่งจะทำให้อวัยวะนั้น ๆ เกิดความเสียหาย

ลดความแซ่บลงหน่อยแล้วมากินแบบปรุงสุก ก็แซ่บไม่แพ้กัน แถมไม่เสี่ยงต่อโรคที่จะตามมาด้วยนะครับ

ข้อมูลจาก https://bit.ly/3ChVUv5 | https://bit.ly/3MqdYHL | https://bit.ly/3vObsoO

ซาซิมิปลานิล หรือ ปลาดิบน้ำจืด
ที่ผ่านมาได้มียูทูปเบอร์ออกมาโชว์กินปลานิลซาซิมิ หรือปลานิลดิบ ๆ โดยทาง หมอแล็บแพนด้า ได้ออกมาเตือนว่า ไม่ควรกิน เพราะว่า นอกจากจะเสี่ยงต่อโรคพยาธิใบไม้ในตับแล้ว นาน ๆ ไปอาจจะทำให้เกิดมะเร็งท่อน้ำดีได้ เพราะในปลาดิบนั้นอาจมี พยาธิระยะติดต่อ อยู่
บางคนท่อทางเดินน้ำดีอุดตันเพราะ ตัวพยาธิไปอุดท่อทางเดินน้ำดี หรือถุงน้ำดี ทำให้อักเสบติดเชื้อ หรืออาจเป็นมะเร็งท่อน้ำดีได้

ก่อนอื่นเรามาดู โรคพยาธิใบไม้ตับกันก่อนดีกว่าครับ โรคพยาธิใบไม้ตับ เกิดจาก พยาธิใบไม้ตับ ชนิด Opisthorchis viverrini พบมากในแถบภาคอีสานและภาคเหนือ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคมะเร็งท่อน้ำดีในคนไทย

ซึ่งโรคพยาธิใบไม้ตับจะเกิดจากการกินปลาน้ำจืดที่ดิบ ๆ หรือสุก ๆ ดิบ ๆ เช่น ก้อยปลา ปลาร้า ปลาดิบ เป็นต้น ระยะแรกมักจะไม่มีอาการ เมื่อสะสมพยาธิมาก ๆ เป็นเวลานาน ท้องจะอืด แน่นท้อง เจ็บบริเวณชายโครงขวา ร้อนบริเวณหน้าท้อง หากปล่อยไว้จะมีอาการอักเสบของท่อน้ำดี ตัวเหลือง ตาเหลือง ตับโต มีไข้ บางรายอาจกลายเป็นมะเร็งท่อน้ำดีในตับ และอาจเสียชีวิต

เห็นมั้ยครับว่า มีอันตรายมากมายจากการกินแบบดิบ ๆ หรือกึ่งสุกกึ่งดิบ เพราะฉะนั้นเราควรกินที่ปรุงสุก เพื่อร่างกายและสุขภาพที่ดีของเราเอง

ข้อมูลจาก https://www.tropmedhospital.com/knowledge/liverflukes.html
https://news.thaipbs.or.th/content/313084