เรามักจะเห็นตามข่าวอยู่บ่อย ๆ ว่าเจองูที่ ชักโครก หรือบางรายโดนงูฉก เวลาไปทำธุระในห้องน้ำ ซึ่งบ้านเรายิ่งเริ่มเข้าหน้าฝน ก็ต้องระวังพวกงูหรือสัตว์เลื้อยคลานไว้ให้ดี ถ้าเจอตามสวนยังพอตั้งรับได้ แต่ถ้าเจอในชักโครกเราจะตั้งรับยังไงไหว วันนี้มาดูกัน
ถ้าเจองูในชักโครกต้องทำอย่างไร
เช็กก่อน เอาให้ชัวร์
– ก่อนเข้าห้องน้ำควรเปิดไฟให้สว่างทุกครั้ง ทั้งป้องกันสิ่งแปลกปลอมและลดอุบัติเหตุที่จะลื่นล้ม
– ลองเคาะข้าง ๆ ชักโครก ว่ามีเสียงผิดปกติหรือเปล่า
– ก่อนจะนั่งลงบนชักโครกทุกครั้ง ให้กดชักโครก เพื่อเช็กว่ามีงูหรือสัตว์เลื้อยคลานอยู่ในชักโครกหรือเปล่า
แต่ถ้ามีงูอยู่ในชักโครกเราจะต้องทำอย่างไร
– ตั้งสติก่อน ทำใจให้ร่ม ๆ แล้วอย่าเพิ่งวิ่งโดยทันที
– สังเกตดูว่า เป็นงูที่มีพิษหรืองูไม่มีพิษ หรือถ้าไม่ทราบลองสังเกตรายละเอียดของงู เพื่อจะได้บอกทางกู้ภัยได้ถูกต้อง และทางกู้ภัยจะได้เตรียมรับมือและทางวิธีจับได้อย่างถูกต้อง
– เมื่อสังเกตเรียบร้อย ให้ค่อย ๆ เคลื่อนตัวอย่างช้า ๆ ถอยไปอยู่ในระยะที่ปลอดภัย
– บอกสมาชิกภายในบ้านให้รู้ ไม่ให้เข้าใกล้ชักโครก และคอยเฝ้าสังเกตงูอยู่เรื่อย ๆ
– โทรแจ้งหน่วยงาน โทร 199 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
แต่เราก็มีวิธีป้องกันไม่ให้งูนั้น เข้ามาอยู่ในชักโครกได้เช่นเดียวกัน
– เช็กท่อน้ำทิ้งว่า มีรอยแตก รอยรั่วหรือช่องโหว่หรือเปล่า หากมี ต้องรีบซ่อม เพราะพวกงูหรือสัตว์เลื้อยคลานมักเข้ามาตามช่องต่าง ๆ
– ติดตะแกรงหรือตาข่ายที่ปากท่อน้ำทิ้ง ป้องกันไม่ให้งูหรือสัตว์เลื้อยคลานเข้ามาได้ เพราะท่อส่วนใหญ่ก็เชื่อมต่อกับห้องน้ำ
– ปิดประตูห้องน้ำ เพื่อป้องกันงูหรือสัตว์เลื้อยคลานออกมาจากห้องน้ำ
ข้อมูลจาก https://www.bnbhome.com/th/articles/snake-in-bathroom-drain
วิธีปฐมพยาบาล เมื่อโดนงูฉก
– ตั้งสติ และพยายามไม่ตื่นตกใจมากจนเกินไป หากใส่เสื้อผ้าหรือเครื่องประดับที่กดรัดรอยแผลงูกัดให้รีบถอดออก
– ล้างแผลด้วยน้ำสะอาดและสบู่ ไม่ใช้ขี้เถา เหล้า ยาสีฟัน หรือสมุนไพรทาแผลเด็ดขาด
– บีบเลือดออกจากแผลให้มากที่สุด แต่ห้ามใช้ปากดูดหรือเปิดปากแผลด้วยของมีคม
– รัดและดามแผล ควรรัดเหนือและใต้แผลประมาณ 3 นิ้วมือ ไม่ควรรัดแผลจนแน่น เพราะอาจทำให้อวัยวะส่วนปลายขาดเลือดและเน่าตาย ควรคลายให้มีความหลวม 1 นิ้วมือใส่เข้าไปได้ หรืออาจจะดามด้วยผ้ายืดและวัสดุที่แข็ง เพื่อให้ส่วนที่โดนฉกนั้น อยู่นิ่ง หรือเคลื่อนไหวอย่างน้อยที่สุด
– ใช้ผ้าสะอาดกดห้ามเลือด
– เคลื่อนไหวร่างกายให้น้อยที่สุด เพราะถ้าเคลื่อนไหวเร็วหรือเยอะ จะทำให้พิษของงูเข้าสู่กระแสเลือดเร็วขึ้น
– วางส่วนหรืออวัยวะที่ถูกฉกต่ำกว่าหรือระดับเดียวกับหัวใจ
– ทานยาแก้ปวดได้ หากรู้สึกปวด แต่ห้ามใช้ยาที่มีแอลกอฮอล์ มีฤทธิ์เป็นยาระงับประสาท ยานอนหลับ หรือยาดองเหล้า
– รีบน้ำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาล
– ให้คิดไว้เสมอก่อนว่า “งูที่กัดทุกตัวเป็นงูที่มีพิษ”
ห้ามทำแบบนี้เด็ดขาด เมื่อถูกงูกัน
– ไม่ควรขันชะเนาะแน่น ๆ
– ห้ามใช้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสีฟัน สมุนไพร ทาแผล
– ห้ามใช้ปากดูดแผลที่ถูกงูกัด
– ห้ามถู ขัด นวด ไฟเหล็กร้อนจี้ หรือมีดกรีดบาดแผล
รู้แบบนี้แล้วอย่าลืม เช็กห้องน้ำและชักโครกทุกครั้ง และอย่าลืมตั้งสติเมื่อต้องเจอกับงูจริง ๆ
ข้อมูลจาก https://www.si.mahidol.ac.th/th/healthdetail.asp?aid=929
https://shorturl.at/koTU8