คีโต เทรนด์สุขภาพที่พลาดไม่ได้

เทรนด์การลดน้ำหนัก การทานเพื่อสุขภาพในปัจจุบัน มีหลากหลายมาก ๆ ซึ่งก็เป็นข้อดี เพราะว่าสายเฮลตี้มีทางเลือกมากขึ้น ทั้งการทำ IF หรือแม้การทานแบบคีโต ที่ได้ยินกันมาสักพักแล้ว แต่ว่าการทานแบบ คีโต คืออะไร วันนี้เราลองมาทำความรู้จักกับการทาน คีโต เทรนด์สุขภาพ อีกเทรนด์ที่เราไม่ควรพลาดกัน

ทำความรู้จักกับการทาน “คีโต”
คีโต มาจาก “คีโตเจนิก ไดเอต” (Ketogenic diet)
เป็นการลดน้ำหนักด้วยการลดอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตอย่างพวกแป้ง ข้าว และน้ำตาล และเน้นการทานไขมันและโปรตีนแทน

หลักของการลดน้ำหนักแบบคีโต
อาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต เช่น แป้ง ข้าว จะถูกย่อยให้กลายเป็นน้ำตาล เพื่อเป็นพลังงานหลักของร่างกาย แต่ถ้าเราลดคาร์โบไฮเดรตลง ร่างกายจะไปเผาผลาญไขมันที่สะสมไว้แทน ซึ่งเป็น “สารคีโตนบอดี้ส์” (Ketone Bodies)

แล้วทำไมถึงทำให้น้ำหนักลด
– เมื่อทานเข้าไป ร่างกายจะมีการสลายไขมัน เพราะร่างกายรู้สึกว่าไม่ได้ทานอะไร
– เวลาที่มีการสลายไขมันขึ้นมา สิ่งเกิดขึ้นก็คือ ร่างกายก็จะมีการเสียน้ำไปด้วยในขณะที่มีการสลายไขมัน เพราะฉะนั้นช่วงแรกน้ำหนักลดลงมาก เพราะเสียน้ำ

การทานคีโตให้ได้ผล
ลดสัดส่วนการทานคาร์โบไฮเดรต เช่น แป้ง ข้าว น้ำตาล ให้เหลือเพียง 5% หรือแค่ 20-50 กรัมต่อวัน หรือไม่มีคาร์โบไฮเดรตในมื้ออาหารเลย
เพื่อให้เกิดภาวะคีโตซิส หรือภาวะที่ร่างกายนำพลังงานจากไขมันในร่างกายมาใช้เป็นแหล่งพลังงานหลัก

การทานอาหารพวกไขมันและโปรตีน มีส่วนทำให้รู้สึกอิ่มนาน และสารคีโตนบอดี้ส์ยังช่วยลดความอยากอาหาร ทำให้เหมือนเป็นการจำกัดปริมาณแคลอรี่ไปในตัว

และเวลาเลือกทานก็ควรเป็นไขมันดี เช่น ไขมันที่พบในพืชผักและปลา เช่น ปลาทะเล อโวคาโด น้ำมันมะกอก น้ำมันดอกทานตะวัน
ที่สำคัญการทานคีโตต้องระวังและเลี่ยงการทานผัก ผลไม้ที่มีแป้งและน้ำตาลสูง พร้อมการปรุงอาหารด้วยน้ำตาล เพราะว่า ร่างกายจะไม่เกิดภาวะคีโตซิส และไม่เกิดผลต่อการลดน้ำหนัก แถมช่วยเพิ่มน้ำหนักและไขมันด้วย

ข้อมูลจาก https://shorturl.at/akHWX
https://shorturl.at/oDO78

ใครควรทาน ใครไม่ควรทานคีโต
ถ้าใครมีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว ไม่ได้ตั้งครรภ์ สามารถลองทานคีโตได้

แต่คนที่ไม่ควรทานคีโต คือ…
– ถ้าคน ๆ นั้นตับไม่ดี เพราะว่า ถ้าเราไม่ทานคาร์โบไฮเดรตเข้าไป แล้วใช้ไขมันเป็นหลักในการที่จะเป็นพลังงาน ตับจะเป็นตัวที่เปลี่ยนไขมันให้เป็นพลังงาน
– คนที่มีปัญหาเรื่องไต เพราะว่า การทานคีโต จะทานโปรตีนค่อนข้างเยอะ ก็จะเกิดปัญหาตามมาได้
– คนที่มีปัญหาในเรื่องของการเผาผลาญไขมัน เช่น คนที่มีคอเลสเตอรอลในเลือดสูงมาก ๆ ไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงมาก ๆ

ข้อมูลจาก https://shorturl.at/akHWX
https://shorturl.at/oDO78

ผลข้างเคียงที่อาจพบได้จากการทาน “คีโต”

– ไข้คีโต เมื่อร่างกายเกิดภาวะคีโตซิส อาจจะรู้สึกเหมือนเป็นไข้ ไม่สบายตัว ปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน หรือเพลีย แต่ส่วนใหญ่แล้วอาการเหล่านี้จะหายไปเอง แต่ถ้าเป็นนานกว่า 2 สัปดาห์ แนะนำให้พบแพทย์

– ขาดสารอาหาร

– ท้องผูก ขาดน้ำและแร่ธาตุ ร่างกายจะขับสารคีโตนบอดี้ส์ออกทางฉี่ ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำเพิ่มขึ้น ซึ่งเสี่ยงต่อการขาดน้ำและแร่ธาตุ และการทานคาร์โบไฮเดรตน้อย จะทำให้ร่างกายได้รับกายใยไม่พอ จึงท้องผูก

– กระหายน้ำบ่อย

– อาการสมองล้า

– ผิวมันเป็นสิว

– โยโย่เอฟเฟกต์ เมื่อหยุดทานคีโต

ข้อมูลจาก https://shorturl.at/akHWX